แนะนำ 10 ร้านอาหารฝรั่งเศสสุดหรู

เตรียมใจให้พร้อม และ ทะยานขึ้นสู่สวรรค์ชั้น 7 แห่งรสชาติ! ที่ได้จากวัตถุดิบนำเข้าหายาก และเทคนิคการปรุงอันแสนช่ำชอง การแต่งจานที่สวยงามตระการ ราวกับภาพเขียนชั้นเลิศ ที่มากับไวน์ชั้นเยี่ยมที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน พร้อมกับบรรยากาศแสนหรูหราชวนเคลิ้ม รวมถึงการบริการที่เอาใจใส่ เตรียมต่อมรับรสให้พร้อม มาสัมผัสกับ สุดยอดวิจิตรศิลป์! 10 ร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศสสุดหรู นักชิมลิ้นทองห้ามพลาด! ร้านที่เราคัดสรรมามีตั้งแต่บาร์เล็กๆ เหมาะกับการสังสรรค์ ร้านอาหารที่ใช้วัตถุดิบออร์แกนิกจากแหล่งผลิตท้องถิ่นของไทย บุฟเฟต์อาหารนานาชาติ รวมถึงห้องอาหารบนชั้นดาดฟ้าที่ปรุงอาหารด้วยวัตถุดิบนำเข้าสุดพรีเมียม

1. La VIE Bistronomy

ที่สุดแห่งการสร้างสรรค์อาหารฝรั่งเศสอย่างมีสไตล์ พร้อมเปิดให้บริการมื้อสายวันอาทิตย์ “วี เลิฟ บรันช์” ใหม่ล่าสุด นำเสนอเมนูอาหารฝรั่งเศสสุดครีเอทีฟที่คุณไม่ควรพลาด ซึ่งมาพร้อมกับคอนเซป ซันเดย์ บรันช์ แนวใหม่ “Unlimited orders” และ “Personally” พร้อมให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร และพบกับโปรโมชั่นสุดพิเศษ “มา 4 จ่าย 3” เฉพาะเดือนกรกฎาคม ถึง กันยายน 2558 นี้ ที่นำเสนอรสชาติที่เข้มข้น สดใหม่จากวัตถุดิบที่เฟ้นหามาจากทั่วทุกมุมโลก รวมถึงวัตถุดิบที่ใช้บนอาหารทุกจานล้วนแต่สดใหม่ และ คัดมาจากแหล่งที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ตับห่านนำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส ซี่โครงแกะนำเข้าจากประเทศนิวซีแลนด์ เนื้อริบอายนำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย เป็นต้น

นอกจากนี้คุณยังจะได้เพลิดเพลินไปกับของหวาน อาทิเช่น “ ช็อกโกแลตฟองดองต์ ” หรือเรียกว่าช็อกโกแลต ลาวา ที่เตรียมไว้สำหรับคนรักช็อกโกแลตโดยเฉพาะ “ คริม บรูเล่ ” กลิ่นหอมของวนิลาพร้อมเนื้อคัสตาร์ดสุดนุ่มนวลชวนให้คุณหลงใหล ส่วนไฮไลท์ของ “วี เลิฟ บรันช์” อยู่ที่ สเปเชียลส์เมนู ของเอ็กเซคคูทีฟเชฟที่สลับสับเปลี่ยนไปแต่ละอาทิตย์ พร้อมเสริฟถึงโต๊ะ ในบรรยากาศสุดชิคบนชั้น 11 ของโรงแรม VIE Hotel Bangkok “วี เลิฟ บรันช์” เปิดให้บริการสำหรับมื้อสายทุกวันอาทิตย์ ในเวลา 12:00 – 15:00 น. ราคา 1,200++ บาทต่อท่าน (รวมเครื่องดื่มซอฟดริ้ง) และจ่ายเพิ่มอีก 1,300++ รวมแชมเปญและเครื่องดื่มอื่นๆอีกมากมาย* (Promoted)

เบอร์โทร : 023093939

2. Le Normandie by Alain RouxMandarin Oriental Bangkok

ถือว่าเป็นร้านอาหารฝรั่งเศสแบบ Fine Dining ร้านแรกๆของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ มีวิวริมน้ำเจ้าพระยายามค่ำคืนให้ชมในบรรยากาศที่มีกลิ่นอายของพระราชวังแวร์ซายแสนหรูหรา แถมการบริการที่ยอดเยี่ยมจากทีมเสิร์ฟที่เอาใจใส่ เชฟ Aranaud Dunand Sauthier เชฟผู้ประจำการคนปัจจุบันก็มีประวัติที่น่าสนใจมาก เคยผ่านประสบการณ์ซึมซับวิทยายุทธจากเชฟอาหารฝรั่งเศสระดับมิชลิน อาทิ Georges Blanc, Emile Jung และอีกหลายต่อหลายคน อาหารแต่ละเมนูของเชฟจึงเรียกได้ว่าเป็นฝรั่งเศสแท้ ที่ได้รับการเจียระไนมาอย่างดี

โดยวัตถุดิบหลักๆทางเชฟจะคัดสรรและนำเข้ามาเอง ไม่ว่าจะเป็น เป็ดพันธุ์ Challans ชั้นเลิศ หรือ เนื้อแกะอ่อนจาก Pyrenees เพื่อนำมาประกอบเมนูชั้นเลิศ ยังไม่พอทางร้านก็ยังได้เกียรติจากเชฟ/เจ้าของ ร้านระดับ มิชลิน 3 ดาวหลายต่อหลายท่านมาเป็นเชฟแขกรับเชิญ ปรุงมื้อสุดพิเศษให้ทุกๆคนได้ลิ้มลองกันอีกด้วย

เบอร์โทร : 026599000

3. Water Library (Chamchuri)Pop Up 39 - สุขุมวิท 39

ด้วยคอนเซปท์ของร้านที่รวบรวมน้ำแร่จากทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะจากแหล่งกำเนิดน้ำแร่แห่งสำคัญๆ ของโลก เช่น ฝรั่งเศส ไอร์แลนด์ อิตาลี นอร์เวย์ และญี่ปุ่น มาวางเรียงรายอยู่บนเคาน์เตอร์วงกลมขนาดใหญ่สูงจรดเพดานตรงกลางร้าน ส่วนเมนูอาหารแต่ละเมนูก็มาจากแดนไกลแทบทั้งสิ้น เพราะเป็นเมนูที่ใช้วัตถุดิบชั้นดีที่นำเข้าจากต่างประเทศ เช่น เนื้อปลาแซลมอนจากแทสมาเนีย มันหอยเม่นจากญี่ปุ่น หอยเชลล์จากฮอกไกโด คาร์เวีย กลืบดอกไม้ เนื้อสันในวัวญี่ปุ่นที่ขุนด้วยธัญพืช 400 วัน พร้อมด้วยไวน์ชั้นเลิศ และเครื่องดื่มสีสันสวยสดใสนานาชนิด เป็นร้านที่ให้ความรู้สึกเหมือนตัวร้านเป็นนักเดินทางที่สะสมประสบการณ์การเดินทางทั่วโลกเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยมจริงๆ

เรื่องรสชาติ ร้านนี้ก็อร่อยไม่เป็นรองใครเลย แต่ในราคาที่ถูกลงมากว่าร้านอื่นมาก แต่ที่เยอะจริงๆ คือ wine list เพราะเจ้าของร้านเป็นคนนำเข้าไวน์รายใหญ่ของภูมิภาคนี้เลย และมี Winery (โรงทำไวน์) เป็นของตัวเองที่อเมริกาอีกด้วย เซ็ทเมนูร้านนี้มี 2 แบบ แบบ Classic ที่เมนูจะเหมือนเดิมตลอด และแบบ Seasonal ที่จะเปลี่ยนเมนูไปอยู่เรื่อยๆ

เบอร์โทร : 0950857777

4. Savelberg Restaurant

ร้านอาหารแห่งแรกในเอเชียของเชฟ “แฮงค์ ซาเวลเบิร์ก” เจ้าของร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ถึงกับลงทุนยกร้านในกรุง Hague ของเขาให้ผู้อื่นดูแลเพื่อที่จะมาทุ่มแรงกายและแรงใจในการทำร้านนี้เลยทีเดียว บรรยากาศภายในร้านจะเน้นความหรูหราแบบเต็มรูปแบบโดยการตกแต่งจะออกไปในแนว Modern ในยุคสมัย 80-90 เน้นความโล่งสบายด้วยเพดานสูงรวมถึงจานชามทุกอย่างจะนำเข้ามาหมด อาหารและของหวานของที่นี่จะเน้นหนักไปที่รสชาติที่แท้จริงของวัตถุดิบแบบเต็มที่ ซึ่งแต่ละอย่างก็ล้วนเป็นของนำเข้าท๊อปเกรดทั้งนั้น โดยหลายอย่างๆ จะผ่านการปรุงด้วยความร้อนไม่นาน 

เมนูแนะนำจะมี “Langoustines” ซึ่งเป็น Starter ที่สดชื่นและรสชาติเข้มข้นมากๆ กุ้งแลงกุสตีนนำเข้า เนื้อแน่นเต็มคำรสหวานธรรมชาติเป็นเอกลักษณ์เพราะตัวกุ้งสดมาก ทานพร้อมกับ มะเขือเทศสดและแห้งสดชื่นเปรี้ยวอมหวาน และ พาเมซานโฟมมันๆสีขาว ทานพร้อมกับ Tomato consomme มีรสชาติเปรี้ยวปนโอชาแสนกลมกล่อม เป็นการจับคู่วัตถุดิบที่ยอดเยี่ยมและชาญฉลาดมากๆ ใครที่ได้มาลิ้มลองกับประสบการณ์อาหารฝรั่งเศสที่ร้าน Savelberg รับรองติดใจยาวนานแน่นอน

เบอร์โทร : 022528001, 0807346686

5. J'AIME by Jean-Michel Lorain กรุงเทพมหานคร

“J’Aime” (เจม) ร้านอาหารของเชฟฌอง-มิเชล โลรองต์ เจ้าของร้าน La Côte Saint Jacques ร้านอาหารระดับ 2 Michelin Star ที่ฝรั่งเศส ซึ่งที่นี่จะมีการใส่ลูกเล่นที่ประยุกต์จากวัฒนธรรมเอเชีย โดยจะเสิร์ฟอาหารบนโต๊ะหมุนจานกลางเหมือนมาร้านอาหารจีน แถมมี “ตะเกียบ” เป็นอุปกรณ์การกิน!!! เมนูแนะนำแน่นอนก็ต้องเป็น signature

จากร้าน La Côte Saint Jacques อย่าง Bourguignon beef cheeks ที่ตุ๋นมาอย่างดีในน้ำซอสไวน์แดงสุดเข้มข้น Oyster Terrine ที่ใช้หอยนางรมนำเข้าสดๆจากฝรั่งเศสที่บรรจงประกอบขึ้นมาอย่างสวยงามสดชื่นเข้มข้น และยังมี อกนกพิราบ ซอสอาราบิก้า ที่ใช้ เนื้อนกพิราบนำเข้าจากแคว้น Anjou ประเทศฝรั่งเศสจะหอมละมุนไร้กลิ่นคาว

เบอร์โทร : 021194899

6. Philippe

เป็นอีกหนึ่งร้านแรกๆในกรุงเทพสำหรับอาหารฝรั่งเศสแบบ Fine Dining เมนูของร้าน Philippe ก็จะเป็น Classical French ที่เน้นใช้วัตถุดิบนำเข้าอย่างดีจากฝรั่งเศส โดย เชฟ Philippe Peretti เชฟและเจ้าของร้านได้ผ่านประสบการณ์ครัวเกือบรอบโลกไม่ว่าจะทั้งร้านระดับมิชลิน หรือ โรงแรมดังในประเทศเอเชียอาคเนย์ เชฟผ่านมาหมดแล้ว จึงสามารถที่จะประยุกต์วัตถุดิบสดๆประจำเมืองไทย และเทคนิค Modern ต่างๆแต่ยังคงนำเสนอเมนูออกมาในเค้าโครงความเป็น Classical French ได้อย่างเต็มเปี่ยม

พร้อมการจัดจานที่มีเสน่ห์ชวนจดจำเมนูเด็ดๆที่แนะนำก็คือเมนูพื้นๆอย่าง French Onion Soup รสเข้มข้นที่ได้จาการเคี่ยวหอมใหญ่ผัดสีเข้มหวานฉ่ำในน้ำสต๊อกกระดูกเข้มข้น ตบท้ายด้วยขนมปังและชีส Gruyere เยิ้มๆ ฟิน! ยังมี Ox Tongue Stew ที่ตุ๋นมาอย่างดีจนแทบละลายในปาก และ Apple Tart ที่อบกันแบบ a-la-minute ณ เดี๋ยวนั้นจึงใช้เวลานานหน่อยส่วนรสชาติและความสดนั้นรับรองคุ้มค่าทุกวินาที ทานพร้อมกับ ไอศกรีมวนิลลาเย็นฉ่ำ อิ่มแปร้นอนตาหลับเลย

เบอร์โทร : 022594577, 022594578

7. Brasserie 9 สีลม

ร้านอาหารฝรั่งเศสสไตล์ต้นตำรับแห่งนี้ตั้งอยู่ในซอยสาธร 6 ตัวร้านดัดแปลงมาจากบ้านสีขาวหลังใหญ่สไตล์โคโลเนียล ด้านหน้าร้านมีลานจอดรถพื้นที่กว้างขวาง ภายในตกแต่งอย่างเรียบหรูดูอบอุ่นด้วยโทนสีขาว-น้ำตาล-เทา ส่วนเมนูอาหารนั้นแม้มีความหลากหลายไม่มากนักแต่ก็มีครบตั้งแต่ Starters-Main Dishes-Desserts ครั้งนี้เมนูที่ทานมี Onion Soup / Escargots / Saffron seafood risotto / Tagliatelle with black truffle cream sauce / Roasted sea bass fillet / Herbs roasted pork chop

วัตถุดิบมีคุณภาพดี รสชาติคลาสสิก ชอบในทุกเมนูที่ได้ทาน เมนูที่ประทับใจสุดคือ Roasted sea bass fillet ปลาเนื้อนุ่ม สดอร่อย การปรุงรสมีความ balance อย่างลงตัว ปิดท้ายด้วยไอศกรีมรส Hazelnut อร่อยๆ การบริการดีมากค่ะ” (โดยคุณ Pasta)

เบอร์โทร : 022342588

8. Artur Restaurant หลังสวน

“ร้านอาหารฝรั่งเศสบรรยากาศดีในซอยต้นสน ภายในร้านตกแต่งสไตล์ยุโรป มีภาพวาดประดับฝาผนังได้บรรยากาศโรแมนติกแบบคลาสสิก อาหารจานเด็ดต้อง “Rack of Lamb” เป็นซี่โครงแกะตัดแต่งให้เป็นอมยิ้ม มีกระดูกออกมาให้ถือได้ เสิร์ฟมาสามชิ้นแน่น ๆ

รสชาติสวรรค์สุด ๆ ครับ “Pan-seared Foie Gras” ชิมเข้าไปแล้วรู้เลยว่าสดและดีจริง ๆ ถือว่าร้านนี้เสิร์ฟอาหารฝรั่งเศสในบรรยากาศเป็นกันเอง รสชาติไม่ธรรมดาเลย” (โดยคุณ​ Jack Duangmanee)

เบอร์โทร : 026586288

9. Aubergine Garden Restaurant

ร้านอาหารฝรั่งเศสย่านสีลมสาทร เป็นร้านขนาดเล็กซ่อนตัวอยู่ในซอยศาลาแดงที่ดัดแปลงมาจากบ้านเก่าแก่ทรง Colonial สีขาวดูหรูแบบย้อนยุค บริเวณร้านมีสนามหญ้าและต้นไม้ใหญ่อันร่มรื่น เมนูที่ได้ลองวันนี้มี “Truffle and mix Mushroom Cappuccino Soup” ได้กลิ่นและรสของเห็ดทรัฟเฟิลและนํ้ามันทรัฟเฟิลแบบหอม ๆ

เนื้อซุปเข้มข้นกําลังดี ได้รสสัมผัสของเนื้อเห็ด “Spaghetti Bacon Olio” ตัวสปาเกตตีสุกกำลังดี ผัดกับพริกกระเทียมและเบคอน โดยรวมแล้วร้านบรรยากาศดีแถมรสชาติอาหารโอเคเลยล่ะ แนะนำเลยครับ” (โดยคุณ​ Wichak)

เบอร์โทร : 022342226, 0927951000

10. Cagette Canteen & Deli

เริ่มกันที่ Cagette Canteen & Deli ตั้งอยู่บนถนนเย็นอากาศ ใจกลางย่านสาทร ที่เป็นให้ทุกอย่างแล้ว ตั้งแต่ร้านอาหารฝรั่งเศสรสเลิศ ร้านขายของชำ และห้องเก็บไวน์ หากใครต้องการลิ้มรสอาหารฝรั่งเศสแบบต้นตำรับในกรุงเทพฯ Cagette เป็นสถานที่ที่เหมาะกับคุณแน่นอน เพราะที่นี่ใช้วัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม สดใหม่ คุณภาพดี

แถมเมนูต่างๆ ยังเสิร์ฟในรูปแบบทันสมัยอีกด้วย

ที่อยู่ : 15 ถนนเย็นอากาศ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ goo.gl/maps/upVkTKMrM3EEbdoPA

วัน-เวลาให้บริการ : ทุกวัน เวลา 11.30 – 22.30 น. (เฉพาะวันศุกร์เปิดถึง 23.00 น.)

ช่องทางติดต่อ : facebook.com/cagettebkk

บทความน่าสนใจ

รีวิว Le Café des Stagiaires

รีวิว คาเฟ่ Le Café des Stagiaires กรุงเทพ อยู่เมืองไทยก็ทาน Brunch แบบฝรั่งเศสได้ เมื่อออกไปเที่ยวต่างประเทศไม่ได้ ชาวไทยอย่างเราเรื่องกินเรื่องเที่ยวไม่เคยยอมใคร แถมกรุงเทพก็มีทุกสิ่งที่เราต้องการ รวมถึงความเป็นฝรั่งเศสด้วยเช่นกัน! ใครที่โหยหาการทานอาหารฝรั่งเศสในช่วงนี้ บอกเลยว่าไม่ต้องไปถึงฝรั่งเศสก็ทาน Brunch ได้แบบเก๋ ๆ ที่สาทร   พิกัดร้านอาหารฝรั่งเศสที่เราจะพาไปแนะนำวันนี้มีชื่อว่า  Le Café des

อ่านเพิ่มเติม »

รีวิว Cocotte Farm Roast & Winery

ร้าน Cocotte Farm Roast & Winery เป็นร้านสไตล์ฝรั่งเศสแบบเรียบง่าย โดดเด่นด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ ส่วนใหญ่จะใช้วัตถุดิบจากโครงการหลวง ซึ่งการันตีเรื่องคุณภาพแน่นอน ทางผมเองก็ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาว่าร้านนี้เนื้อเค้าเด็ดเค้าโดน มีโอกาสได้มาจัดสักที มาครั้งแรกก็จะลองเมนูที่ฮิตๆ ของร้านเค้าก่อนครับ   Cocotte Farm Roast & Winery อยู่ที่สุขุมวิท 39 ใกล้กับ BTS พร้อมพงษ์

อ่านเพิ่มเติม »

รีวิว Bardo Social Bistro and Bar

รีวิว: Bardo Social Bistro and Bar ประเภทอาหาร: Mediterranean   Bardo Social Bistro and Bar คือ ร้านอาหารแนวกึ่งบาร์สไตล์เมดิเตอร์เรเนียนสุดครื้นเครงที่นำเสนอเมนูอาหารยุโรปหลากหลายสัญชาติที่มีทั้งเมนูแบบดั้งเดิมและเมนูแบบสมัยใหม่พร้อมด้วยเครื่องดื่มหลากหลายชนิดในบรรยากาศแบบ social club ที่มีดีเจเปิดเพลงสนุกๆที่ให้อารมณ์ชีวิตกลางคืนในประเทศแถบยุโรปได้อย่างดีเยี่ยม   [รีวิว] จุดเด่นของร้าน Bardo Social Bistro

อ่านเพิ่มเติม »